พรรคมารเทวะ
เรื่องราวในยุคโบราณที่โหดร้าย โลกที่ศิลปะการต่อสู้คือทุกสิ่ง รวินบุตรที่ถูกทอดทิ้งของประมุขพรรคมารเทวะการต่อสู้เอาตัวรอดจนได้รับต่ำแหน่งเป็นประมุขพรรครุ่นใหม่ที่แข็งแกร่งกว่าประมุขพรรคคนก่อน
ผู้เข้าชมรวม
550
ผู้เข้าชมเดือนนี้
22
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ในจันเพ็นดวงจันทร์ส่องสาดแสงทามกลางหมู่ดาวนับพันเปล่งประกายระยิบระยับ สายลมเย็นพัดผ่านไปทั่วทุกแห่งพน
ณ เทือกเขาตำราหากมองจากด้านบนจะเห็นเป็นหนังสือที่ใช้สันตั้งขึ้นเป็นรูปตัว V เทือกเขาที่แปลกปลาดมีล่อง หุบเหว หุบเขาใหญ่น้อยรับพันนับหมื่น ทั้งกว้างใหญาไพร่ศาลกินพื้นที่หลายล้านตารางกิโลเมตร
ต้นไม้สูงใหญ่ขนาด 100 คน โอบคือขนาดต้นไม้ทั่วไปที่พบเห็นได้ทั่วทุกแห่งหน
แฮ่ก….แฮ่ก….แฮ่ก
เสียงหอบหายใจเหน็ดเหนื่อยอย่างอ่อนแรงของใครบางคนที่วิ่งผ่านต้นไม้น้อยใหญ่ในหุบเขาตำราทมิฬ
อ๊ากกก….อ่อก….อ่อก….อั๋ก….อั่กกกก
เสียงกรีดร้องของชายหนุ่มหลังที่เขาวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตด้วยสภาพหมดแรงตาพร่ามัวทำให้ไม่ได้สังเกตุรากไม้ที่อยู่บนพื้นจนเท้าของเขาสดุดล้มกลิ่งตกลงไปในเนินคันดินหัวทิ่มหัวตำ
“บัดซบ….”เสียงชายหนุ่มที่ล้มสบถออกมาหลังจากหยุดกลิ่งลุกขึ้นมายืนตั้งหลัก
“ขะขาข้า แฮ่กๆ ขาไม่เริ่มไม่มีความรู้สึกแล้ว”เขาได้แต่พึมพำกับสภาพของตนเองที่เป็นตอนนี้ หลังจากที่ตั้งหน้าตั้งตาวิ่งออกจากที่พำนักด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี
เขาในตอนนี้ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนวิ่งมาไกลถึงเพียงไหนแล้ว รู้เพียงแค่ว่าวิ่งเท่านั้น หากหยุดแม้เพียงสักครู่จะถูกตามทันถูกจับตัว จบชีวิตน้อยๆของเขาเพียงเท่านี้ สิ่งที่พยุงให้เขาวิ่งมาไกลได้เพียงนี้ทั้ง ๆ ที่หมดแรงตั้งแต่ยังไม่พ้นเขตที่พำนัก ก็คือแรงใจ ความตั้งใจที่จะแก้แค้นให้มารดาทำให้เขาประคองสติ ฝืนร่างกายอย่างที่สุดเท่าที่เขาทำได้ในความคิดมีสิ่งเดียวคือเขาต้องรอด
“คุณชายรวิน”เสียงทักทายชายหนุ่มที่ล่องลอยมาตามสายลม
“หืม”เขาอดอุทานอย่างท้อแท้ไม่ได้ เมื่อเขาหันหน้าไปตามเสียงที่ลอยมาตามอากาศภาพที่ประกฏในจักษุนั้นทำให้ขนทั่วร่างกายตั้งชันไปด้วยความกลัว หัวใจเต้นกระสับกระส่ายหายใจไม่ทั่วท้อง
“ให้ตายสิ”รวินพูดออกมาอย่างสิ้นหวัง “เราอยู่ในกำมือพวกมันตั้งแต่แรกแล้ว” หลังจบประโยคน้ำตาค่อย ๆ ซึมไหลออกมา นัยน์ตาแดงกล่ำ
‘จบตรงนี้สินะ หมดสิ้นแล้ว ข้าต้องมาตกตายตรงนี้ตอนนี้ ความแค้นของท่านแม่ข้าคงมิได้มีโอกาศแม้แต่จะได้เห็นที่พำนักพวกมัน อย่าว่าแต่เงาของพวกมันเลย ข้าขอโทษท่านแม่ อาฟง’
‘ท่านอาฟง ถึงท่านจะเป็นคนคุ้มที่อ่อนด้อยฝือมือแต่ท่านก็อ่อนด้อยจริง ๆ ทว่าท่านดูแลข้าเยี่งบุตรชาย โดยเฉพาะซาลาเปาที่ท่านทำนั้นอร่อยยิ่งนัก’
‘หมันโถ….ก่อนตายสักคำยังดี ทั้งๆที่อยู่ในอกเสื้อแล้วแท้ๆๆไม่มีโอกาศได้ลิ้มลองสักคำก่อนตายก็มิได้รึไง’
‘ของกิน ของกิน เฮ้ย ข้าจะตายอยู่แล้วข้ายังนึกแต่เรื่องกินอยู่ได้’
เพียงช่วงเวลาสั่น ๆ แต่สำหรับคนที่กำลังจะตายนั้นช่วงเวลารอบตัวจะช้าลงเป็นมาจากสมองคนเราจะเร่งการทำงานให้ถึงขีดสุด บางคนอาจถึงมองวัตถุที่เคลื่อนที่ได้ความเร็วแสงได้ทันแต่ก็มิอาจหลบได้ด้วยร่างกายที่ไม่สามารถตามคลื่นสมองได้ทัน
ภาพที่ปรากฏแก่สายชองรวินนั้นคือกลุ่มบุคคลลึกลับสวมผ้าคุมสีดำทับปกปิดใบหน้า มือซ้ายถือดาบ มือขวาถือกล้วยที่ยังไมได้ปลอกยืนเด่ดบนต้นไม้ ยังมีอีกสามคนแต่งตัวเหมือนกันเพียงแต่มือขวาของทั้งสามคนปลอกกล้วยยัดคาปากอยู่
“ทำได้ดีแต่ท่านไม่ต้องทนทำจะดีกว่า”บุคคลลึกลับคนแรกเอยขึ้นพร้อมปากล้วยที่ยังไม่ได้ปลอกใส่หัวเพื่อนร่วมทีมที่ยืนอยู่ใต้คนไม้ “ทำงาน ทำงาน ไอ้พวกเวณ”
“ครับ/ครับ/คร๊าบ”ทั้งสามรีบลุกขึ้นกลืนกล้วยที่อยู่ในมือหมดอย่างรวดเร็วพร้อมทิ้งกล้วย ตั้งท่าสู้
“คุณชายมีกำลังใจที่ยิ่งมากเลยนะขอรับ พยามได้ดีมากวิ่งมาตั้งครึ่งวันนั้นก็หมายความว่าพวกข้ามารอท่านครึ่งแล้วเช่นกัน”
พวกเขาเป็นหนึ่งในทีมมือสังหารถูกส่งมาดักรอฆ่ารวินแต่ทว่าระหว่างทางพบป่ากล้วยทำให้พวกเขาหยิบติดไม้ติดมือมากินดังคำกล่าวที่ว่ากองทัพต้องเดินด้วยท้อง
ผลงานอื่นๆ ของ Li Rongrong ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Li Rongrong
ความคิดเห็น