พรรคมารเทวะ - นิยาย พรรคมารเทวะ : Dek-D.com - Writer
×

    พรรคมารเทวะ

    เรื่องราวในยุคโบราณที่โหดร้าย โลกที่ศิลปะการต่อสู้คือทุกสิ่ง รวินบุตรที่ถูกทอดทิ้งของประมุขพรรคมารเทวะการต่อสู้เอาตัวรอดจนได้รับต่ำแหน่งเป็นประมุขพรรครุ่นใหม่ที่แข็งแกร่งกว่าประมุขพรรคคนก่อน

    ผู้เข้าชมรวม

    550

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    22

    ผู้เข้าชมรวม


    550

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    7
    จำนวนตอน :  5 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  30 มิ.ย. 67 / 06:48 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ในจันเพ็นดวงจันทร์ส่องสาดแสงทามกลางหมู่ดาวนับพันเปล่งประกายระยิบระยับ สายลมเย็นพัดผ่านไปทั่วทุกแห่งพน

    ณ เทือกเขาตำราหากมองจากด้านบนจะเห็นเป็นหนังสือที่ใช้สันตั้งขึ้นเป็นรูปตัว V เทือกเขาที่แปลกปลาดมีล่อง หุบเหว หุบเขาใหญ่น้อยรับพันนับหมื่น ทั้งกว้างใหญาไพร่ศาลกินพื้นที่หลายล้านตารางกิโลเมตร

    ต้นไม้สูงใหญ่ขนาด 100 คน โอบคือขนาดต้นไม้ทั่วไปที่พบเห็นได้ทั่วทุกแห่งหน

    แฮ่ก….แฮ่ก….แฮ่ก

    เสียงหอบหายใจเหน็ดเหนื่อยอย่างอ่อนแรงของใครบางคนที่วิ่งผ่านต้นไม้น้อยใหญ่ในหุบเขาตำราทมิฬ

    อ๊ากกก….อ่อก….อ่อก….อั๋ก….อั่กกกก

    เสียงกรีดร้องของชายหนุ่มหลังที่เขาวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตด้วยสภาพหมดแรงตาพร่ามัวทำให้ไม่ได้สังเกตุรากไม้ที่อยู่บนพื้นจนเท้าของเขาสดุดล้มกลิ่งตกลงไปในเนินคันดินหัวทิ่มหัวตำ

    “บัดซบ….”เสียงชายหนุ่มที่ล้มสบถออกมาหลังจากหยุดกลิ่งลุกขึ้นมายืนตั้งหลัก

    “ขะขาข้า แฮ่กๆ ขาไม่เริ่มไม่มีความรู้สึกแล้ว”เขาได้แต่พึมพำกับสภาพของตนเองที่เป็นตอนนี้ หลังจากที่ตั้งหน้าตั้งตาวิ่งออกจากที่พำนักด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี

    เขาในตอนนี้ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนวิ่งมาไกลถึงเพียงไหนแล้ว รู้เพียงแค่ว่าวิ่งเท่านั้น หากหยุดแม้เพียงสักครู่จะถูกตามทันถูกจับตัว จบชีวิตน้อยๆของเขาเพียงเท่านี้ สิ่งที่พยุงให้เขาวิ่งมาไกลได้เพียงนี้ทั้ง ๆ ที่หมดแรงตั้งแต่ยังไม่พ้นเขตที่พำนัก ก็คือแรงใจ ความตั้งใจที่จะแก้แค้นให้มารดาทำให้เขาประคองสติ ฝืนร่างกายอย่างที่สุดเท่าที่เขาทำได้ในความคิดมีสิ่งเดียวคือเขาต้องรอด

    “คุณชายรวิน”เสียงทักทายชายหนุ่มที่ล่องลอยมาตามสายลม

    “หืม”เขาอดอุทานอย่างท้อแท้ไม่ได้ เมื่อเขาหันหน้าไปตามเสียงที่ลอยมาตามอากาศภาพที่ประกฏในจักษุนั้นทำให้ขนทั่วร่างกายตั้งชันไปด้วยความกลัว หัวใจเต้นกระสับกระส่ายหายใจไม่ทั่วท้อง

    “ให้ตายสิ”รวินพูดออกมาอย่างสิ้นหวัง “เราอยู่ในกำมือพวกมันตั้งแต่แรกแล้ว” หลังจบประโยคน้ำตาค่อย ๆ ซึมไหลออกมา นัยน์ตาแดงกล่ำ

    ‘จบตรงนี้สินะ หมดสิ้นแล้ว ข้าต้องมาตกตายตรงนี้ตอนนี้ ความแค้นของท่านแม่ข้าคงมิได้มีโอกาศแม้แต่จะได้เห็นที่พำนักพวกมัน อย่าว่าแต่เงาของพวกมันเลย ข้าขอโทษท่านแม่ อาฟง’

    ‘ท่านอาฟง ถึงท่านจะเป็นคนคุ้มที่อ่อนด้อยฝือมือแต่ท่านก็อ่อนด้อยจริง ๆ ทว่าท่านดูแลข้าเยี่งบุตรชาย โดยเฉพาะซาลาเปาที่ท่านทำนั้นอร่อยยิ่งนัก’

    ‘หมันโถ….ก่อนตายสักคำยังดี ทั้งๆที่อยู่ในอกเสื้อแล้วแท้ๆๆไม่มีโอกาศได้ลิ้มลองสักคำก่อนตายก็มิได้รึไง’

    ‘ของกิน ของกิน เฮ้ย ข้าจะตายอยู่แล้วข้ายังนึกแต่เรื่องกินอยู่ได้’

    เพียงช่วงเวลาสั่น ๆ แต่สำหรับคนที่กำลังจะตายนั้นช่วงเวลารอบตัวจะช้าลงเป็นมาจากสมองคนเราจะเร่งการทำงานให้ถึงขีดสุด บางคนอาจถึงมองวัตถุที่เคลื่อนที่ได้ความเร็วแสงได้ทันแต่ก็มิอาจหลบได้ด้วยร่างกายที่ไม่สามารถตามคลื่นสมองได้ทัน

    ภาพที่ปรากฏแก่สายชองรวินนั้นคือกลุ่มบุคคลลึกลับสวมผ้าคุมสีดำทับปกปิดใบหน้า มือซ้ายถือดาบ มือขวาถือกล้วยที่ยังไมได้ปลอกยืนเด่ดบนต้นไม้ ยังมีอีกสามคนแต่งตัวเหมือนกันเพียงแต่มือขวาของทั้งสามคนปลอกกล้วยยัดคาปากอยู่

    “ทำได้ดีแต่ท่านไม่ต้องทนทำจะดีกว่า”บุคคลลึกลับคนแรกเอยขึ้นพร้อมปากล้วยที่ยังไม่ได้ปลอกใส่หัวเพื่อนร่วมทีมที่ยืนอยู่ใต้คนไม้ “ทำงาน ทำงาน ไอ้พวกเวณ”

    “ครับ/ครับ/คร๊าบ”ทั้งสามรีบลุกขึ้นกลืนกล้วยที่อยู่ในมือหมดอย่างรวดเร็วพร้อมทิ้งกล้วย ตั้งท่าสู้

    “คุณชายมีกำลังใจที่ยิ่งมากเลยนะขอรับ พยามได้ดีมากวิ่งมาตั้งครึ่งวันนั้นก็หมายความว่าพวกข้ามารอท่านครึ่งแล้วเช่นกัน”

    พวกเขาเป็นหนึ่งในทีมมือสังหารถูกส่งมาดักรอฆ่ารวินแต่ทว่าระหว่างทางพบป่ากล้วยทำให้พวกเขาหยิบติดไม้ติดมือมากินดังคำกล่าวที่ว่ากองทัพต้องเดินด้วยท้อง

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น